HIV มีกี่ระยะกันนะ

HIV มีกี่ระยะกันนะ

ระยะที่1 ระยะฉับพลัน : ผู้ป่วยในระยะนี้จะแสดงอาการผิดปกติน้อย และอาการต่าง ๆ สามารถหายเองได้ในเวลา 24 วัน ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายกับอาการของโรคไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ระยะที่วินิจฉัยได้ค่อนข้างยาก จึงต้องใช้วิธีการตรวจเลือดเพื่อความชัดเจนมากที่สุด

ระยะที่2 ระยะเรื้อรัง : การติดเชื้อฉวยโอกาสอย่างรุนแรง ผู้ติดเชื้ออาจจะมีเชื้อราขึ้นที่ลิ้น หรือมี วัณโรค ปอดกำเริบ เกิดขึ้นได้ แต่อาการมักไม่รุนแรงมาก และมักจะรักษาโรคเหล่านี้ได้ผล ระยะนี้ของโรคก็ยังไม่เรียกโรคเอดส์ ระยะนี้ เชื้อไวรัสจะเข้าไปอยู่ในต่อมน้ำเหลือง และในม้าม และจะแบ่งตัวเพิ่มปริมาณในอวัยวะทั้งสองนี้เป็นส่วนใหญ่ ปริมาณของ CD 4 positive T-cell ในเลือด จะค่อยๆลดจำนวนลงอย่างช้าๆ ระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย จะไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสได้ ระยะนี้ส่วนใหญ่จะกินเวลานาน 7-10 ปี โดยที่ผู้ติดเชื้อไม่มีอาการผิดปกติชัดเจน นอกจากนี้หากได้รับยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอจะเป็นการทำให้ผู้ติดเชื้อมีชีวิตอยู่ในระยะนี้ได้ยาวนานยิ่งขึ้นกว่าแต่ก่อน

ระยะที่3 ระยะโรคเอดส์ : ท้องเสีย ถ่ายอุจจาระเหลวเป็นประจำ ปริมาณของ CD 4 positive T-cell จะต่ำมาก ส่วนใหญ่ต่ำกว่า 200 เซลล์ต่อไมโครลิตร และจะมีการติดเชื้อฉวยโอกาส ในอวัยวะสำคัญอย่างรุนแรง เช่น ปอด และมีมะเร็งชนิดต่างๆเกิดขึ้นได้ ที่พบบ่อย คือ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะนี้เป็นระยะที่ระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายถูกทำลายเกือบทั้งหมดโดยเชื้อไวรัสนี้ ปริมาณเชื้อไวรัสในเลือดจะสูงขึ้น ผู้ป่วยจะมีไข้เรื้อรังนานเป็นเดือนๆ น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว
ปัจจุบัน มีการผลิตภัณฑ์ แค็ปซูลพลูคาว หรือ ยาน้ำสมุนไพรพลูคาว ให้ทานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ผู้สนใจอยากทราบรายละเอียดหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่เพจ ภูมิแพ้แก้ไขได้ ด้วยสมุนไพรพลูคาวคุณสัมฤทธิ์ https://www.plukaowherb.com